บรรยากาศดาวอังคาร

ดาวอังคารเป็นดั่งขุมนรกที่น่าผิดหวัง ซึ่งขาดทุกอย่างที่เราต้องการเพื่อให้มีชีวิตรอด ดูเหมือนว่าจะมีแค่ลูกเรือกลุ่มเล็กๆ ที่ใช้เวลาอันน่าเวทนาซ่อนอยู่ใต้ดิน ยกเว้นว่าเราสามารถเปลี่ยนมัน ให้กลายเป็นโลกสีเขียวใบใหม่ได้ แต่เพื่อแก้ปัญหาของดาวนี้ เราต้องทำให้มันแย่กว่านี้ และเปลี่ยนมันเป็นทะเลลาวาด้วยเลเซอร์ขนาดมหึมา นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ที่เกินจริง การปรับสภาพดาวอังคารนั้นเป็นไปได้ ในระยะเวลาที่บรรพบุรุษของเราสร้างเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ หากมนุษยชาติแก้ปัญหาเร่งด่วนบางอย่างได้ และออกผจญภัยในอวกาศเพื่อขยายไปสู่ระบบสุริยะ นี่อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัว เอาล่ะ แล้วเราจะปรับสภาพดาวอังคารให้รวดเร็วอย่างไร? คำตอบคือ มันค่อนข้างจะซับซ้อน [INTRO] ดาวอังคารแห้งแล้งและไม่มีดินไว้ปลูกอะไรเลย บรรยากาศเบาบางเกินกว่าจะหายใจ หรือป้องกันจากรังสีที่ทำให้คุณเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง เพื่อที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นบ้านหลังใหม่ของมนุษยชาติ เราต้องให้บรรยากาศมันคล้ายกับโลก …

ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่

โลกเป็นลูกบอลขนาดมหึมาของหินกึ่งหลอมเหลว โดยแกนของมันเป็นเหล็กที่ร้อนพอๆ กับผิวดวงอาทิตย์ ปริมาณความร้อนมหาศาลที่เหลือจากการกำเนิด และการสลายตัวของธาตุกัมมันตภาพรังสี ของธาตุกัมมันตภาพรังสีหลายล้านล้านตัน ที่หาทางออกไม่เจอ นอกจากต้องขึ้นไป กระแสของหินที่ทอดยาวไปหลายพันกิโลเมตร ส่งพลังงานนี้ขึ้นสู่พื้นผิว เปลือกโลกเป็นสิ่งเดียวที่ขวางทางมัน ในความรู้สึกของเราเปลือกโลกนั้นแข็ง แต่มันเป็นเพียงเปลือกที่เปราะบาง เหมือนผิวแอปเปิ้ลที่รอบๆ ลุกเป็นไฟ หายนะที่แท้จริงสามารถทะลุทะลวงและปล่อยการปะทุ ได้รุนแรงมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดรวมกันเป็นสิบเท่า ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนไปหลายศตวรรษในปีเดียว ขณะที่ทำให้ทวีปต่างๆ จมอยู่ในเถ้าและแก๊สพิษ ภูเขาไฟใหญ่  มันใหญ่ได้ถึงเพียงใด? และมันจะเป็นจุดจบของมนุษยชาติไหม? ภูเขาไฟนั้นมีหลายประเภท ตั้งแต่ภูเขาสูงตระหง่านไปจนถึงโดมลาวา …

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

บ้านของเรากำลังเผาไหม้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้โลกของเราไม่มั่นคง ดูเหมือนว่าการปล่อยมลพิษของเรา ยังลดลงไม่เร็วพอที่จะเลี่ยงภาวะโลกร้อน และในไม่ช้าอาจถึงจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่ การล่มสลายของระบบนิเวศและอารยธรรมของเรา ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ นักเคลื่อนไหว และคนรุ่นใหม่จำนวนมากเร่งให้ดำเนินการ แต่เหมือนว่านักการเมืองส่วนใหญ่ ไม่ได้มุ่งมั่นที่จะทำอะไรที่มีความหมาย ขณะที่อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล ยังคงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอย่างแข็งขัน ดูเหมือนว่ามนุษยชาติจะไม่สามารถ เอาชนะความหมกมุ่นและความโลภ จากกำไรระยะสั้นและผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อปกป้องตัวเอง สำหรับหลายๆ คน อนาคตจึงดูมืดมนและสิ้นหวัง คนหนุ่มสาวจึงรู้สึกวิตกกังวลและหดหู่เป็นพิเศษ แทนที่จะได้มองหาโอกาสตลอดชีวิต กลับคิดว่าจะยังมีอนาคตอยู่ หรือควรจะมีลูกหรือไม่ …

อารยธรรมโบราณ

เมื่อเรานึกถึงอารยธรรมต่างดาว เรามักจะมองไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ ในดาวเคราะห์ที่ห่างออกไป แต่มันมีอีกมิติหนึ่ง ที่กว้างใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ ที่เราคิดไม่ถึง นั่นคือ เวลา เป็นไปได้ไหมว่า ในช่วงหลายร้อยล้านปีที่ผ่านมา อาจมีอารยธรรมอื่นๆ อยู่บนโลกนี้? มีสายพันธุ์เทคโนโลยีพื้นเมือง ที่อาจเกิดและตายจากไป? และพวกเขาหรือสิ่งประดิษฐ์ ของพวกเขาถูกฝังอยู่ใต้เท้าของเรา? วิทยาศาสตร์บอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันมีความหมายกับเราอย่างไร? สิ่งมีชีวิตบนโลกมีมา 4 พันล้านปีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว จนกระทั่งประมาณ 540 ล้านปีก่อน …

พระจันทร์ตก

วันนี้เรากำลังตอบคำถาม ทางวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่และสำคัญมาก ถ้าดวงจันทร์ชนโลกล่ะ? มันน่าสนใจและแปลกกว่าที่คุณคิดไว้ มาเริ่มกันที่พื้นฐานก่อน ทำไมดวงจันทร์ไม่พุ่งชนเราอยู่แล้ว?  เรารู้ว่าแรงโน้มถ่วงของโลกดึงทุกอย่าง เข้าหามัน รวมถึงดวงจันทร์ด้วย แต่ทำไมมันถึงอยู่ข้างบน ราวกับลอยได้ด้วยแรงตรงข้าม แต่ไม่มีแรงอะไรมาต้านแรงโน้มถ่วงไว้ เคล็ดลับในการลอยอยู่ได้ คือ การเคลื่อนไหว 'ไปด้านข้าง' เรียกว่าวงโคจร คุณเห็นวงโคจรทุกวันอยู่แล้ว เช่น เมื่อคุณขว้างลูกบอล มันจะโคจรเล็กน้อย ความต่างเพียงอย่างเดียวระหว่าง วงโคจรของลูกบอลกับดวงจันทร์ คือ ในที่สุดลูกบอลก็จะตกลงพื้น …

วัวและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (เนื้อหาที่เป็นที่ถกเถียงกัน )

อาหารอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการมีชีวิตอยู่ ไม่มีความสุขทางกายใด ที่จะทำให้เรามีความสุขได้หลายครั้งในทุกวัน และไม่เคยเก่าลงเลย มันเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรม ความรักของพ่อแม่ และมีความหมายถึงการเฉลิมฉลองหรือความสะดวกสบาย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเราต้องกังวลเป็นพิเศษ เมื่อมีคนบอกให้เราเปลี่ยน วิธีการกินเพื่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว ข่าวร้ายคือหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุด เนื้อสัตว์ ช่วยไม่ได้ที่หัวข้อนี้ยากเกินกว่าที่จะค้นคว้าได้ด้วยตนเอง และการอภิปรายทำให้อารมณ์ขึ้นเร็ว แต่วิทยาศาสตร์สามารถให้คำตอบเราได้อย่างชัดเจน! ความจริงคือ มันซับซ้อน มาดูข้อโต้แย้งของเนื้อเกี่ยวกับสภาพอากาศ 3 ข้อต่อไปนี้ ที่พูดถึงกันมาก และดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น 1. อาหารของเรามีบทบาทอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่? …

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (เนื้อหาที่มีการโต้เถียงกันอย่างมาก)

ไม่เคยมีมาก่อนที่ประวัติสาศตร์ของมนุษย์ ร่ำรวยมากขึ้น ก้าวหน้ามากขึ้น หรือทรงพลังมากขึ้น และรู้สึกหนักใจเมื่อเจอกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว มันดูเข้าใจในแบบพื้นฐาน ก๊าซเรือนกระจกกั้นพลังงานจากดวงอาทิตย์แล้วส่งไปยังชั้น บรรยากาศของเรา สิ่งนี้ทำให้ฤดูหนาวร้อนขึ้น ฤดูร้อนร้อนมากขึ้น พื้นที่แล้งจะแล้งมากขึ้นและพื้นที่เปียกจะเปียกมากขึ้น ระบบนิเวศนับไม่ถ้วนจะตายในขณะที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกินชายฝั่ง และเมืองที่เราสร้างขึ้น แล้วทำไมเราไม่... หยุดไม่ให้มันเกิดขึ้นล่ะ? ก็ มันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น การโต้เถียงสาธารณะเกี่ยวกับ การหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วมักเน้นลักษณะ ที่สำศัญบางประการ เช่น พลังงานถ่ายหิน รถยนต์ หรือวัวเรอ ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงง่าย …

มนุษย์บนดาวศุกร์

ภาพลวงตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือความต่อเนื่อง 66 ล้านปีก่อน ความต่อเนื่องของไดโนเสาร์มีมาตั้งแต่ 165 ล้านปีก่อน และดูเหมือนว่าจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป โลกนั้นอบอุ่น รื่นรมย์ และดินแดนส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม และความหลากหลายอันน่าทึ่งของต้นไม้ ดอกไม้ ต้นเฟิร์น และสัตว์เลื้อยคลานอีกเป็นล้านๆ ตัว ไดโนเสาร์มีอยู่ทั่วทุกที่ และแยกเป็นไดโนเสาร์ที่มี หลากหลายทางสายพันธุ์ ทั้งขนาดและรูปร่าง ไททันโนซอรัส ยักษ์ใหญ่ผู้อ่อนโยน อยู่ร่วมโลกกับ สัตว์ร้ายชื่อดังอย่างไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ หรือเอ็ดมอนโตซอรัส …

ไมดาส โกลด์ พาวเวอร์

ถ้าหากเราทำอาวุธนิวเคลียร์ หรือ ถ้าเราทำให้ช้างตัวนี้ระเบิดล่ะ หรือใครจะไปลืม ดูนี่สิ มันใหญ่มากๆ เลยนะ เพื่อสืบสานธรรมเนียมที่น่าภูมิใจของเราต่อ เรามาสำรวจเรื่องลึกลับทางวิทยาศาสตร์กัน ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราหากจู่ๆ โลกก็กลายเป็นทองคำขึ้นมา "Midaspocalypse" มีพื้นฐานมาจากนิทานเก่าแก่ เกี่ยวกับกษัตริย์ไมดาสที่โดนคำสาป เมื่อทุกสื่งที่เขาจับกลายเป็นทองคำ ก่อนที่เราจะอธิบายสถานการณ์นี้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เราต้องตั้งสมมติฐานก่อน คำสาปของไมดาสนั้นเป็นปรากฏการณ์แสนพิเศษ ที่เรียกว่า เวทมนตร์ ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟิสิกส์ได้ จะเกิดอะไรขึ้นหากไมดาสแตะบางสิ่งแล้วกลายเป็นทอง? {Intro} อะตอมของทองนั้นมี 79 …

โลกที่ไม่มีดวงอาทิตย์

ท้องฟ้ายามราตรีดูเหมือนสงบสุขและดูเป็นระเบียบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดาวฤกษ์กำลังเคลื่อนตัวผ่านกาแล็กซี่ ด้วยความเร็วแสงหลายแสนกิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ได้ยึดติดกับจุดที่มันกำเนิด แต่ว่าเปลี่ยนเพื่อนบ้านไปเรื่อยๆ โชคดีที่อวกาศนั้นกว้างใหญ่ และดาวฤกษ์ในทางช้างเผือกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเรา โชคร้ายที่พวกมันนั้นไม่ต้องชนกับอะไรก็อาจทำให้ เราพบกับเรื่องร้ายๆ บนโลกได้ และมีดาวฤกษ์บางดวงที่เริ่มเข้าใกล้เราขึ้นเรื่อยๆ แรงโน้มถ่วงดึงดูดทุกสิ่งอย่างในจักรวาลเข้าด้วยกัน คุณถูกดึงดูดโดยอะตอมที่ห่างออกไปล้านปีแสง โชคดีที่ยิ่งห่างแรงยิ่งน้อยลง และมันขึ้นกับความใหญ่ของสิ่งนั้น ดังนั้นสิ่งที่ใกล้กันและใหญ่กว่าจะมีแรงดึงดูดมากจะชนะไป ด้วยวิธีนี้ สิ่งที่ใหญ่จะกำหนดว่าสิ่งเล็กๆ รอบตัวควรปฏิบัติอย่างไร ดวงอาทิตย์มีมวลกว่า 99.75% ของทั้งระบบสุริยะ และกำหนด พฤติกรรมและการโคจรของทุกอย่างในระบบสุริยะ …

วิศวกรรมเพื่อเปลี่ยนโลก

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 21 มนุษยชาติกำลังจะสิ้นหวัง คลื่นความร้อนและความแห้งแล้ง ที่มีนานนับทศวรรษ ทำให้เก็บพืชผลได้น้อย ขณะที่น้ำในมหาสมุทรอุ่นขึ้น ทำให้ปลาลดลงในแต่ละปี ในพื้นที่เขตร้อน คนนับล้าน ต้องทรมานจากความอดอยาก และสงครามแย่งชิงทรัพยากร ทำให้ผู้คนคนนับล้านต้องหนีขึ้นเหนือ เมื่อสิ่งต่างๆ แย่ลงอย่างรวดเร็ว และด้วยความสิ้นหวัง รัฐบาลโลกตัดสินใจทำแผนเร่งด่วนขึ้นมา ยังห่างไกลจากความแน่นอน ที่เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่ความล้มเหลวของผู้นำโลกในการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ยิ่งทำให้มันดูเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ มันอาจจำเป็นต้องลองใช้สิ่งที่รุนแรง เพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลง …

วิธีการเพิ่มการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์ได้ปล่อยมากกว่าหนึงล้านห้าแสนล้านตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ออกมา เข้าสู่ขั้นบรรยากาศโลก ในปี ค.ศ. 2019(พ.ศ.2562) เราได้ปล่อยเพิ่มมาอีกถึง สามหมื่นเจ็ดพันล้านตัน ซึ่งนั่นมากขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และเกือบสามเท่าของห้าสิบปีที่แล้ว(พ.ศ. 2513) และไม่ใช่แค่คาร์บอนไดออกไซด์ เรายังคงปล่อยเพิ่มขึ้นในเรื่องก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่นๆ อย่างเช่นมีเทน และไนตรัสออกไซด์ รวมก๊าซเรือนกระจกทุกชนิด เราปล่อยห้าหมื่นหนึงพันล้านตันเมื่อเทียบเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ …

อะไรอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทร

บางทีโลกนี้ก็ดู.....น่าเบื่อ เราไปเยือนเกาะทุกเกาะที่อยู่ห่างไกล พิชิตทวีปอาร์คติคและบุกตะลุยป่าที่ลึกที่สุดแล้ว แต่ว่ายังเหลืออีกที่หนึ่งให้สำรวจ นั่นคือทะเลทรายมรณะที่เปียกและมืดมิดซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตลึกลับมากมาย ณ ใต้ทะเลลึก เรามาดำลงไปกันเลย [♫ เพลงเปิดน่ารัก ๆ ♫] เมื่อพิจารณาดูขนาดอันมโหฬารของมหาสมุทรบนโลกของเรา มันยากที่จะเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตน้อยกว่า 2% ของทั้งโลกอาศัยอยู่ใต้นี้ และจากสัดส่วนอันน้อยนิดนั้น ประมาณ 90% จะอาศัยอยู่ในความลึก 200 เมตรแรกจากผิวน้ำเท่านั้น การเดินทางของเรา เริ่มต้น ณ …